Popular Posts

Sunday, April 7, 2013

วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า


วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า
 
        วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า “เพื่อผิวสวย เรียบเนียน”เป็นทริคเพื่อผิวสวยที่น่าสนใจจริง ๆ สำหรับวิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า ผิวหน้าเนียน รูขุมขนเล็กกระชับ เป็นใบหน้าที่่สาว ๆ นับร้อยต่างใฝ่ฝัน สาว ๆ บางคนอาจจะดีที่แต่งหน้าให้ดูเนียสวยได้ แต่ก็ยังมีบางคนที่ดีกว่านั้นคือ ไม่แต่งเลยก็ยังดูดี แต่ก็ยังมีสาว ๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่มีอุปสรรคผิวไม่เรียบเนียบรูขุมขนไม่กระชับและก็ยังรู้สึกว่า วิธีดูผิวให้สวยใสกลายเป็นเรื่องที่สุดแสนจะยุ่งอยากมาก ๆ วันนี้เราก็เลยนำเอา 
 
           วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า มาฝากกันค่ะ สำหรับ วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า มีอยู่ด้วยกัน 9 วิธีง่าย ๆ ถ้าสาว ๆ คนไหนที่พร้อมแล้วก็ไปลองทำตาม 9 วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเองได้ที่บ้านเลยค่ะ แล้วปัญหาที่แสนจะยุ่งอยากก็จะไม่อยู่กวนใจคุณอีกต่อไป ถ้าพร้อมสวยแบบประหยัดกับ 9 วิธีเพื่อผิวสวยที่สุดแสนจะง่ายแล้วก็เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้วลุยกันเลยจร้า
 
 
9 วิธีการกระชับรูขุมขนบนใบหน้า1. รักษาความสะอาดการรักษาความสะอาดของผิวหน้าเป็นวิธีพื้นฐานสุด ๆ แต่กลับสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและกระชับขึ้น การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นการกำจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่มักเข้าไปอุดตันรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนดูกว้างและทำให้ผิวหน้าไม่เรียบค่ะ

2. ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในเวลาเช้าหนึ่งครั้งและอีกครั้งในตอนเย็นเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงและผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรเย็น นอกจากจะช่วยคืนความสดชื่นแล้วยังทำให้รูขุมขนดูกระชับด้วย

3. ไม่เข้านอนทั้งที่ยังแต่งหน้าอยู่ไม่ว่าจะเหนื่อยหนักขนาดไหนห้ามเข้านอนทั้ง ๆ ที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าเป็นอันขาด หากเข้านอนทั้งที่ยังไม่ล้างเครื่องสำอางให้เรียบร้อยนอกจากจะทำให้เครื่องสำอางลงไปอุดตันรูขุมขนได้ง่ายแล้วยังทำให้ผิวหน้าดูไม่สดชื่นเมื่อยามตื่น และหากทำเป็นประจำจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ดูแก่กว่าวัย เกิดเป็นผลเสียต่อผิวหน้าในระยะยาวด้วย ผิวหน้าที่หนักจากเครื่องสำอางที่แต่งลงไปทั้งวันย่อมต้องการพักผ่อนและหายใจบ้างจึงต้องเช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนนอนค่ะ
 
 

4. สครับผิวการสครับผิวเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้เป็นอย่างดีในหนึ่งสัปดาห์ควรสครับผิวให้ได้ 1-2 ครั้ง การสครับผิวเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกที่อยู่ที่ผิวชั้นนอกซึ่งมีโอกาสเข้าไปอุดตันรูขุมขนให้หลุดออกไปนอกจากนี้ยังช่วยเผยผิวข้างใต้ที่สดใสให้ขึ้นมาแทนที่ด้วยค่ะ

5. มาส์กหน้าสาว ๆ หลายคนมาส์กหน้าหรือพอกหน้าเพื่อช่วยให้ผิวกระชับขึ้น โดยมาส์กนั้นก็มีให้เลือกใช้หลายสูตรซึ่งล้วนช่วยบำรุงผิวทั้งนั้น อย่างไรก็ตามต้องระวังมาส์กประเภทช่วยควบคุมความมันหรือโคลนพอกหน้าที่ช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกจากผิวหน้า เพราะสำหรับมาส์กประเภทนี้หากทำบ่อยเกินกว่าสัปดาห์ละครั้งจะทำให้ผิวของคุณแห้งได้ง่ายค่ะ

6. มาส์กหน้าด้วยไข่ขาวการมาส์กหน้าด้วยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงเพียงใช้ไข่ขาวในการมาส์กหน้าโดยทาไข่ขาวที่ใบหน้าและทาย้ำเป็นพิเศษบริเวณที่มีสิวเสี้ยน จากนั้นใช้กระดาษเช็ดหน้าแปะทับลงไป รีดให้ติดกับผิวหน้าทิ้งไว้ให้แห้งแล้วจึงลอกกระดาษไข่ขาวดึงสิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกออกมาจากรูขุมขนทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้ นอกจากนี้โปรตีนในไข่ขาวยังช่วยบำรุงผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้อีกด้วย

7. มาส์กหน้าด้วยมะเขือเทศมาส์กมะเขือเทศเป็นอีกสูตรมาส์กที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน เพียงฝานมะเขือเทศเป็นแผ่นบาง ๆ คัดเมล็ดออกแล้วแปะไว้ให้ทั่วผิวหน้าหรือจะบดแต่เนื้อมะเขือเทศแล้วใช้อกหน้าไว้ก็ได้ กรด AHA วิตามินเอและซี ในมะเขือเทศจะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนทำให้หน้ากระจ่างใสและยังมีสารที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ด้วย

8. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้คุณมีผิวที่สะอาดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว กาวเหนียว ๆ ที่ค่อย ๆ แข็งตัวจะจับเอาสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนออกมาทำให้รูขุมขนดูเล็กลงทันตาเลยทีเดียว แต่ข้อควรระวังคือห้ามใช้ถี่เกินไปเพราะจะทำให้ผิวบางและเป็นการรบกวนผิวมากเกินไปได้เช่นกัน

9. ใช้ครีมสำหรับลดกระชับรูขุมขนปัจจุบันนี้มีครีมสำหรับกระชับรูขุมขนให้เลือกใช้มากมายลองเลือกใช้แบบที่เหมาะกับผิวหน้าของคุณ ส่วนใหญ่คนที่มีรูขุมขนกว้างมักจะเป็นคนผิวมันเพราะฉะนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขนที่มีเนื้อบางเบาหรือแบบเนื้อเจลเพื่อให้ซึมซับง่ายและไม่ทิ้งความมันส่วนเกินไว้บนใบหน้า โดยใช้ทุกครั้งหลังจากล้างหน้าหรืออาบน้ำซึ่งเป็นเวลาที่รูขุมขนเปิดและผิวหนังจะซึมซับครีมบำรุงได้ดีที่สุด
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment