อาหารบำรุงการทำงานของไต
อาหารที่สูงไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นอาหารที่ดีสำหรับการทำงานของไต เหตุผลก็คือ เมื่อเกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกาย ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เพราะฉะนั้นการกินอาหารที่สูงไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยลดภาระการทำงานของไต
อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร :
อนุมูลอิสระจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายต้องกายใช้พลังงานจากโปรตีน ในขบวนการเปลี่ยนโปรตีนให้เป็นพลังงานนั้น อ๊อกซิเจนจะต้องทำฎิกริยากับกรดไขมันที่ได้รับจากโปรตีน และอนุมูลอิสระก็จะเกิดขึ้นจากการทำปฎิกริยานี้ แต่ถ้าหากมีการสะสมตัวของอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง มันจะสามารถก่อให้เกิดปัญหากับร่างกายได้ เช่น โรคไต เพราะอนุมูลอิสระมีผลทำลายเซลล์,กำแพงเซลล์, และยีนส์
อาหารต้านอนุมูลอิสระ :
ผัก : ผักหลายชนิดมีไวตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น พริกหยวกเป็นอาหารที่นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้วยังสูงไปด้วย วิตามิน A, C, B6, และ ไฟเบอร์ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งสามารถช่วยป้องกันมะเร็งบางประเภทได้ พริกหยวกมีธาตุโพแทสเซียมต่ำซึ่งดีต่อไต เพราะไตต้องกรองโพแทสเซียมส่วนเกินออกจากร่างกาย การกินพริกหยวกให้ดีกับไตให้มากที่สุดควรจะกินดิบๆ ผักกาดเป็นผักอีกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติคล้ายกับพริกหยวก นอกจากจะมีโพแทสเซียมต่ำแล้วผักกาดยังมีวิตามิน K สูงและยังมีราคาไม่แพง กะเทียมและหัวหอมเป็นผักอีกสองประเภทที่ดีต่อไตอีก้วย
เบอรี่ : บลูเบอรี่เป็นสีน้ำเงินเพราะสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่า Anthocyanins เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ช่วยต้านอาการอักเสบและเป็นอาหารตามธรรมชาติที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง สตอเบอรี่มีวิตามิน C และ ไฟเบอร์สูง และยังมีสารต้านสารอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
โปรตีนและไขมัน : การรับประทานอาหารที่มีไขมันและคลอเรสเตอรอลต่ำช่วยในการทำงานของไต แต่การทานโปรตีนในปริมาณที่ร่างกายต้องการก็สำคัญกับการสร้างพลังงาน ดังนั้นหากคุณต้องการทานเนื้อสัตว์ ควรหลีกเลี่ยงเนื้อติดมัน แหล่งอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนและไขมันต่ำได้แก่ ไข่ขาวและปลาไข่ขาวให้โปรตีนสูงและมีธาตุฟอสฟอรัสต่ำ โดยเฉพาะถ้าหากคุณมีปัญหาเรื่องไตควรระวังปริมาณของฟอสปอรัสที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน ถ้าได้รับปริมาณฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นผลทำให้เกิดอาการขาดแคลเซียมซึ่งส่งผลให้เกิดโรคกระดูกขึ้นได้ ปลา เช่น ทูน่าและแซมอลมีสารต้านการอักเสบสูงจาก โอเมก้า 3 และสามารถลดปริมาณ
ของคลอเรสเตอรลที่ไม่ดีและเพิ่มคลอเรสเตอรอลที่ดีให้กับร่างกายได้
No comments:
Post a Comment